วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 5

วันพุธที่ 21 ก.ค พ.ศ.2553

นำเสนอโครงการที่แก้ไข
หาสาเหตุที่เกิดภาวะโลกร้อน วิธีที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนพร้อมแหล่งที่มา

บรรยากาศในห้องเรียน
เย็นสบาย ทุกคนตั้งใจเรียนดี

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 4

ตะกร้าจากกล่องนมค่ะ
วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2553

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโครงการที่ให้เด็กตระหนักถึงภาวะโลกร้อน
โครงการของแต่ละกลุ่ม
1.โครงการกระถางต้นไม้สุดประหยัดจากขวดพลาสติก
2.โครงการแม่ลูกช่วยกันระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อน
3.โครงการการประดิษฐ์ตะกร้าจากกล่องนม
4.โครงการลดภาวะโลกร้อนของเด็กปฐมวัย
5.โครงการถังขยะอัจฉริยะ

บรรยากาศในห้องเรียน
อากาศไม่ค่อยเย็นมากนัก นักษาตั้งใจเรียนดี

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 3

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2553
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาส่งตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอกิจกรรมที่ให้เด็กสามารถช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ดังนี้
กลุ่มที่1 เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กนำถุงผ้ามาตกแต่งใช้แทนถุงพลาสติก
กลุ่มที่2 เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กนำขวดพลาสติกหรือขวดน้ำที่ไม่ใช้มาประดิฐเป็นกระถางต้นไม้และให้เด็กๆช่วยกันปลูกต้นไม้ลงในกระถางที่ได้ช่วยกันประดิฐขึ้น
กลุ่มที่3 เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กๆช่วยกันเรียงภาพลำดับเหตุการที่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อน
กลุ่มที่4 เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กๆนำถุงพาสติกหรือถุงขยะมาประดิฐเป็นกระโปรง เป็นเสื้อ เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนและเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวเมื่อเด็กได้มีการทำกิจกรรมร่วมกันกับคนในครอบครัวรวมทั้งทำให้เด็กเห็นถึงคุณค่าของขยะอีก

กลุ่มที่5 เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กๆช่วยกันเก็บขยะในโรงเรียนและทำการแยกขยะทิ้งลงถังขยะให้ถูกต้อง โดยให้เด็กๆช่วยกันทำสัญลักษณ์ของถังขยะแต่ละประเภทนำมาติดที่ข้างหน้าถังขยะเพื่อเป็นการช่วยให้เราทิ้งขยะลงถังได้ถูกประเภท
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้อากาศเย็นสบาย ทุกคนตั้งใจเรียนดี

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่ 2

วันพุธ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ 2553

วันนี้มีการปฐมนิเทศนักศึกษา
1.ทำข้อตกลงกับนักศึกษา คือ
1.1การมาเรียน ถ้าไม่มาเรียนก็ต้องมีการบันทึกลงบล็อก
1.2การแต่งกาย ร้องเท้า เข็มขัด เสื้อ กระโปรงต้องถูกระเบียบ
2.อาจารย์เริ่มนำเข้าสู้เนื้อหาบทเรียน มีการซักถามนักศึกษาถึงความหมายของเด็กปฐมวัยเป็นอย่าง
ไรมีลักษณะอย่างไรเพื่อทบทวนความรู้เดิม
เด็กปฐมวัยคือเด็กที่มีลักษณะต่างๆกันหรือเหมือนกันเช่นเด็กขี้อาย เด็กกล้าแสดงออก ขึ้นอยู่กับพัฒนาการ อายุ และการเลี้ยงดู
3.อาจารย์สอนนักศึกษาและเปิด power point เรื่อง ความหมายของวิทยาศาสตร์
-วิทยาศตร์ คือ ความหมายของมนุษย์ที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัวและตัวตนของตนเอง
-ความพยายามเช่นนี้ติดตัวของมนุษย์มาแต่แรกเกิดซึ่งสะท้อนให้เห็นจากธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็นและคอยซักถาม
-การทำความเข้าใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวตนของตนเองโดยการสังเกตและคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่พวกเธอเขาเจอ ช่วยเชื่อมโยงเซลล์สมองของเด็กส่งเสริมให้เด็กคิด

อธิบายเพิ่มเติม
-เด็กแรกเกิด 0-2 ปี จะเป็นช่วงที่ใช้ประสาทสัมผัสได้ดี
-เด็กอายุ 2-4 ปี จะอยู่ในขั้นก่อนปฏิบัติการ เริ่มมีรูปฟอร์ม ใช้คำเป็นคำๆมากขึ้น
-เด็กอายุ 4-6 ปี จะเริ่มใช้คำพูดเป็นประโยค มีคำถามมากขึ้น
-สมองเปรียบเสสมือนกระดาษหรือผ้าขาว สมองสั่งงานพัฒนาการทางสมองมีการซึมซับข้อมูลใหม่ๆ การปรับให้เป็นความรู้ใหม่จากการซึมซับปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก
-ปิดกั้นโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการไม่ให้ความสนใจกับคำถาม
-ไม่ให้ความสนใจค้นพบแบบเด็กๆ
-ไม่จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้องให้กับเด็กอย่างเหมาะสม
ทบทวนบทบาท
-เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการให้ความสนใจกับคำถาม
-ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
-จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกให้กับเด็ก
-ครูและผู้ปกครองยอมรับในเรื่องจินตนาการที่มีอยู่ของเด็กวัยนี้
-ครูต้องแม่นยำในพัฒนาการของเด็ก เพื่อที่จะจัดการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับพัฒนาการความสามารถของเด็ก

อาจารย์ให้นักศึกษาสรุปความรู้ที่ได้จากการเรียนในวันนี้คนละ 5 บรรทัด
วันนี้เรียนเรื่องของความหมายของวิทยาศาสตร์ วิยาศาสตร์เป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะเรียนรู้สิ่งรอบตัวและตัวตนของตนเอง และเรียนรู้ใสมองเปรียบเสมือนกระดาษหรือผ้าขาว มีการซึมซับและเกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ และเรียนรู้เรื่องพัฒนาการของเด็กแรกเกิด 0-2 ปี จะเป็นช่วงที่ใช้ประสาทสัมผัสมาก เด็กอายุ2-4 ปี เป็นเด็กที่อยู่ในช่วงขั้นก่อนปฏิบัติการ มีการใช้คำมากขึ้น และเด็กอายุ 4-6 ปี เป็นช่วงที่เริ่มใช้คำเป็นประโยคและถามคำถามมากขึ้น

อาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่มสรุปความรู้ของแต่ละคนเป็นคนเป็นกลุ่ม
สรุปได้ดังนี้ 1.ช่วงอายุของเด็ก 0-2 ปี เป็นช่วงที่เด็กใช้ประสาทสัมผัส
2-4 ปี เป็นช่วงที่เด็กใช้คำมากขึ้น
4-6 ปี เป้นช่วงที่เด็กใช้คำที่มีประโยคและเริ่มมีคำถาม
2.ความหมายของวิทยาศาสตร์
คือ ความพยายามของมนุษย์ที่จะเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวและตัวตนของตนเอง
3.ผู้ใหญ่มีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
4.สมองทำงานเหมือนผ้าขาวหรือกระดาษ มีการซึมซับเพื่อให้เกิดความรู้ใหม่และการดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอด
5.วิธีการและแนวทางในการสอนให้เด็กได้มีการส่งเสริมทักษะและแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม

อาจารย์เปิดวิดิทัสน์เรื่องเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนให้นักศึกษาดูและมอบหมายงานให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มไปหากิจกรรมของเด็กที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน (ได้เด็ก5ขวบ) มานำเสนอเล่าสู่กันฟังคาบหน้า

บรรยากาศในห้องเรียน
เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียน อากาศในห้องเรียนไม่ค่อยเย็นสบายมากนัก

วิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ( ครั้งที่1 )


วัน พุธ ที่ 23 มิถุนายน 2553

1.วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากนักศึกษาได้ขออนุญาติอาจารย์ไปปฏิบัติกิจกรรมรับน้องของทางมหาวิทยาลัย
2.อาจารย์สั่งให้นักศึกษาสร้างบล็อกไว้เพื่อเป็นแฟ้มสะสมผลงานของรายวิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย